ค่าน้ำประปา เตรียมปรับขึ้นราคา หลังไม่ได้ขึ้นมา 23 ปี ชี้กระทบต้นทุนเพิ่มจากค่าไฟฟ้าแพง เตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณา
วันที่ 24 เมษายน 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (23 เมษายน) นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กปน.ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลักการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบด้วย
1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน. ต้องเสีย 150 ล้านต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย
2. ค่าน้ำดิบจ่ายให้กับกรมชลประทานวันละ 3 ล้านบาท
3. ค่าไฟเพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟทีของรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์
4. ค่าธรรมเนียมการวางท่อเป็น 100 ล้านบาทต่อปี
แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ กปน.จะตรึงค่าน้ำไว้ให้นานที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาลที่ยังไม่ต้องการให้ขึ้นค่าน้ำ ขณะเดียวกัน พยายามบริหารจัดการต้นทุนทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ไฟฟ้า โดยจ่ายน้ำตามความต้องการใช้ เป็นต้น
ปัจจุบัน กำลังพิจารณาอัตราค่าน้ำให้สอดรับต้นทุนเพิ่มขึ้น หลังไม่ได้ขึ้นค่าน้ำมา 23 ปี เพื่อบริหารสภาพคล่องด้านการเงิน เพราะใช้เงินลงทุนไป 42,000 ล้านบาท เพื่อขยายการผลิตในโครงการ 9
ขณะที่ นายมงคล วัลยะเสวี รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า ตอนนี้ กปภ. อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างค่าน้ำใหม่ ตามต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% ทั้งจากค่าไฟ ค่าสารเคมี เพื่อขอขึ้นค่าน้ำหลังไม่ได้ขึ้นมากว่า 10 ปี ซึ่งอีก 2 เดือน จะแล้วเสร็จ
จากนั้นจะเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะให้ปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป การปรับขึ้นค่าน้ำเคยขอกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ไม่ได้รับอนุมัติ และขอให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายแทน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
Comments