พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศพร้อมรับใช้ประชาชน และเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทย ไม่ว่าท่านจะได้เลือกหรือไม่ก็ตาม หลังคะแนนตอนนี้นับได้ 99 เปอร์เซ็นต์ แบบไม่เป็นทางการ
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Pita_MFP
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์เช็กคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีการระบุว่า นับคะแนนเลือกตั้งเสร็จแล้ว 99% แบ่งผลสรุป ส.ส.แบบแบ่งเขต จากทั้งหมด 400 คน ดังนี้ 1. พรรคก้าวไกล 113 ที่นั่ง 2. พรรคเพื่อไทย 111 ที่นั่ง 3. พรรคภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง 4. พรรคพลังประชารัฐ 39 ที่นั่ง 5. พรรครวมไทยสร้างชาติ 23 ที่นั่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai PBS
ขณะเดียวกัน จำนวนคะแนนเสียงแบบบัญชีรายชื่อ 5 อันดับแรก มีดังนี้
1. พรรคก้าวไกล 14,031,418 เสียง
2. พรรคเพื่อไทย 10,666,830 เสียง
3. พรรครวมไทยสร้างชาติ 4,666,641 เสียง
4. พรรคภูมิใจไทย 1,114,356 เสียง
5. พรรคประชาธิปัตย์ 905,064 เสียง
จากคะแนนเสียงทั้งหมด สามารถประเมินเก้าอี้ ส.ส. ของพรรคต่าง ๆ อย่างไม่เป็นทางการ 5 อันดับแรก ดังนี้
1. พรรคก้าวไกล 151 ที่นั่ง
2. พรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง
3. พรรคภูมิใจไทย 70 ที่นั่ง
4. พรรคพลังประชารัฐ 40 ที่นั่ง
5. พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 ที่นั่ง
พิธา โพสต์ พร้อมที่จะเป็นนายกฯ ของประเทศไทย
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Pita_MFP
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โพสต์ในช่วงเช้าหลังพอทราบคะแนนเสียงแบบไม่เป็นทางการว่า "พี่น้องประชาชนที่รัก วันนี้ผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชัด และ พร้อม แล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
เรามีความฝัน ความหวัง แบบเดียวกัน และเราเชื่อเหมือนกันว่า ประเทศไทยที่เรารักจะดีกว่านี้ได้ ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ ถ้าเราเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้... ความฝัน ความหวัง ของพวกเรานั้นค่อนข้าง "เรียบง่าย ตรงไปตรงมา"
และไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผม ผมก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีของท่าน ไม่ว่าท่านจะโหวตหรือไม่โหวตให้ผม ผมก็จะรับใช้ท่าน..."
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Pita_MFP